เลิกพึ่งจีน คาดเติบโตไม่เกิน 6

หลังจากการเติบโตอย่างสูงตั้งแต่การเปิดประเทศของจีนสมัยผู้นำเติ้งเสี่ยวผิง หลังจากนี้เป็นจีนเติบโตแบบก้าวกระโดด GDP โตเกิน 10% จนมาชะลอในช่วงหลัง ซึ่งในช่วงปี 2000-2010 เศรษฐกิจจีนเติบโตเฉลี่ยถึง 10.4% ต่อปี 

สงครามการค้าจีน-สหรัฐ การชะลอตัวเศรษฐกิจโลก และหนี้ที่สูงขึ้นของประเทศจีน คาดว่าจะไม่เห็นประเทศจีน GDP โตเกิน 6% อีกแล้ว มันเป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้าที่สุดในประมาณ 27 ปีที่ผ่านมา

ผลกระทบต่อเอเชีย

ธุรกิจในประเทศอื่น ๆ ในเอเชียจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่จีนเติบโตน้อยกว่าอย่างรวดเร็วและการค้าขายก็ยากขึ้น การส่งออกกระทบแน่นอน โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นแหล่งโลจิกติสให้การประเทศจีน มูลค่าการส่งออกสินค้าไปจีน 2017 USD 29,506.01 ล้าน (ประมาณ 12% ของการส่งออกไทย เทียบกับสหรัฐอเมริกาที่ประมาณ 13%) ซึ่งสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ยางพารา ผลิตภัณฑ์ยาง เม็ดพลาสติก เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง (ข้อมูลจาก สถิติการค้าไทย-จีน)

ผลกระทบของประเทศไทยได้รับจากการเติบโตที่ต่ำลงของประเทศจีน

  1. การส่งออก เมื่อเศรษฐกิจจีนไม่ขยายตัวเท่าเดิม และโดยกีดการทางการค้าของสหรัฐ การส่งออกของไทยก็มีปัญหา ไทยเองนับเป็นประเทศสำคัญที่มีการส่งออกวัตถุดิบขั้นกลางไปยังจีน ดังเช่นในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 ติดลบไป 10% ติดต่อกัน 2 เดือนแล้ว (ตุลาคม ติดลบ -10.4% พฤศจิกายน -14.2%)
  2. การท่องเที่ยว เห็นได้ชัดในปี 2562 การท่องเที่ยวไทยโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน
    ยายตัวเพียง 3.6% เทียบกับค่าเฉลี่ยอัตราขยายตัว 10 เดือนแรก ทียบกับค่าเฉลี่ยอัตราขยายตัว 10 เดือนแรก 3 ปีย้อนหลัง (2016-2018) ที่มีค่าสูงถึง 10.6%
  3. การลงทุนโดยเฉพาะด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้รับการกระทบอย่างหนักนักลงทุนจีน
    จากข้อมูลเมื่อปี 2018 พบว่ามากกว่า 43% ของการโอนเงินของต่างชาติทั้งหมดเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยเป็นนักลงทุนจีนและฮ่องกง เที่ยบกับปี 2019 ยอดโอนเงินของนักลงทุนจีนและฮ่องกง ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2019 ลดลง 36% ทำให้ยอดรวมการโอนเงินเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์จากต่างชาติทั้งหมดหดตัวกว่า 31.1%
  4. การตีตลาดของสินค้าจีน ซึ่งในอนาคตหลังการเปิดศูนย์กระจายสินค้าของอาลีบาบา คาดว่าจะมีสินค้าจีนไหลเข้ามาในไทยอย่างมหาศาลด้วยราคาที่ถูกและการยกเว้นภาษีของรัฐบาล ซึ่งจะถือว่าอยู่ในเขตปลอดอากรสินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท จะไม่เสียภาษีนำเข้าและ Vat จากเดิมที่ต้องมีพ่อค้าคนกลาง จะมีผลกระทบอย่างยิ่งกับสินค้าไทยและผู้ประกอบการไทย

แหล่งที่มา

https://www.cnbc.com/2019/12/13/2020-outlook-asia-countries-must-adjust-to-china-slowdown-anz-says.html