หลักการของดอกเบี้ยทบต้นคือดอกเบี้ยที่คุณได้รับในแต่ละรอบจะถูกเพิ่มเข้าไปในทุนของคุณ และทวีคูณในแต่ละครั้งไม่เพียงแค่ทำให้เงินต้นคุณเติบโต แต่มันจะเติบโตขึ้นในอัตราที่เพิ่มขึ้น มันเป็นพื้นฐานของการเติบโตระยะยาวสำหรับการลงทุนและสามารถแปลงจำนวนเงินที่น้อยเป็นจำนวนเงินที่มากขึ้นได้
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ยกให้ “ดอกเบี้ยทบต้น” เป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก
การเข้าใจดอกเบี้ยทบต้นเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการตัดสินใจทางการเงินไม่ว่าคุณจะเพื่อการออมเงินสำหรับการเกษียณ, การชำระหนี้, หรือการตัดสินใจทางการลงทุน. เพื่อสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
ตัวอย่างเช่น ฝากเงิน 100,000 บาท ดอกเบี้ย 5% สิ้นปีเงินในบัญชีจะเท่ากับ 105,000 บาท ถ้าเราไม่ถอนเงินออก ปีที่ 2 เงินในบัญชีจะเท่ากับ 110,250 บาท จะเห็นได้ว่าเกินมา 25 บาท ถ้ายิ่งฝากจำนวนปีมาก ส่วนเกินก็จะทวีคูณมากขึ้นเรื่อย
ดอกเบี้ยทบต้น (Compound Interest) เป็นสิ่งที่สำคัญในการทำให้การลงทุนของคุณเติบโตมากขึ้นในระยะยาว ดอกเบี้ยทบต้นคือการเอาดอกเบี้ยหรือกำไรที่ได้จากการลงทุนมาทบกับเงินต้นแล้วลงทุนต่อ ทุนเดิมที่มีก็จะเพิ่มพร้อมกับดอกเบี้ย/กำไร ยิ่งผ่านไปนานเงินในบัญชีก็จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

ประโยชน์หลักๆ ของดอกเบี้ยทบต้นคือ:
- การเพิ่มพูนทรัพย์สินในระยะยาว: ดอกเบี้ยทบต้นทำให้เงินของคุณเติบโตอย่างรวดเร็วเมื่อผ่านเวลาไปนาน. การที่ดอกเบี้ยที่ได้รับจะถูกเพิ่มเข้าไปในเงินต้นทำให้เงินที่ลงทุนในรอบถัดไปมีมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ได้รับดอกเบี้ยมากขึ้นเมื่อเทียบกับการที่ไม่มีดอกเบี้ยทบต้น.
- ผลตอบแทนที่มากกว่า: ดอกเบี้ยทบต้นเป็นวิธีที่ทำให้ได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าในระยะยาว เมื่อเทียบกับการลงทุนที่มีดอกเบี้ยธรรมดา หรือดอกเบี้ยที่ไม่ถูกทบต้น.
- การลงทุนที่ง่ายและมั่นคง: ดอกเบี้ยทบต้นเป็นวิธีการลงทุนที่ง่ายและมั่นคง เนื่องจากคุณไม่ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนในทรัพย์ ใช้แค่ระยะเวลาและผลตอบแทนที่เหมาะสมเท่านั้น
สูตรการคำนวณดอกเบี้ยทบต้น
เราสามารถคำนวณดอกเบี้ยทบต้นได้จากสูตรนี้
A = P (1 + r)^(t)
- A = จำนวนเงินที่ได้หลังจากรวมดอกเบี้ยทบต้นตามปีที่ฝาก
- P = เงินเริ่มต้น
- r = อัตราดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนต่อปี
- t = จำนวนปีที่เราฝากเงินหรือลงทุน
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราฝากเงินหรือเริ่มลงทุนด้วยเงิน 10,000 บาทโดยมีดอกเบี้ยหรือผลตอบแทน 3% ต่อปี ถ้าไม่ถอนเลยและให้มันทบต้นไปเรื่อยจนครบ 10 ปี จะคำนวณได้ดังนี้
A = 10,000 * (1 + 0.03)^10 = 13,439 บาท เมื่อครบ 10 ปี
ตารางด้านล่างเป็นผลตอบแทนต่างๆ เช่น 3% 5% 7% 10% ต่อปี และคอลัมน์ด้านซ้ายจำนวนปีที่ฝากโดยไม่ถอนออกมาเลย
จำนวนปี | 3% | 5% | 7% | 10% |
---|---|---|---|---|
10 | 13439 | 16289 | 19672 | 25937 |
20 | 18061 | 26533 | 38697 | 67275 |
30 | 24273 | 43219 | 76123 | 174494 |
40 | 32620 | 70400 | 149745 | 452593 |
50 | 43839 | 114674 | 294570 | 1173909 |
จะเห็นได้ว่ายิ่งผลตอบแทนมาก ก็จะได้มากและยิ่งนานเท่าไรผลตอบแทนก็จะทวีคูณเท่านั้น จากตารางด้านบนถ้าฝากเงิน 10000 บาท อัตราผลตอบแทน 10% เมื่อครบ 50 ปีเงินหมื่นจะกลายเป็น 1,173,909 บาท

กลยุทธ์สำหรับดอกเบี้ยทบต้น
ปัจจัยหลักๆ ของที่ทำให้ดอกเบี้ยทบต้นทวีคูณมากขึ้นจากสูตรการคำนวณ เราก็จะเห็นได้เวลามีสิ่งสำคัญอยู่ 3 ปัจจัย
- จำนวนเงินต้น
- อัตราผลตอบแทน
- เวลา
อย่างไรก็ตามความสำคัญของดอกเบี้ยทบต้น ต้องมีกลยุทธ์และวิธีที่สามารถช่วยคุณให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากดอกเบี้ยทบต้น:
- เวลา – เริ่มการออมเร็ว : พลังของดอกเบี้ยทบต้นอยู่ที่เวลา ยิ่งเงินของคุณมีเวลาเพื่อการเติบโตมากเท่าไหร่ คุณก็จะสะสมได้มากเท่านั้น นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้การเริ่มการออมตั้งแต่เร็วๆนั้นสำคัญมาก
- อัตราผลตอบแทน: เลือกการลงทุนที่สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่นการฝากธนาคาร
การที่ทำให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้นอย่างเต็มที่ ประเภทของการลงทุนที่ต่างกันมีระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เป็นไปได้ที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงสำคัญที่จะเลือกการลงทุนที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินและความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณด้วย ถ้าเสี่ยงมากอย่างสูญเสียเงินต้นได้ ดังนั้นต้องศึกษาให้ดี - เพิ่มเงินต้น: ถ้าเงินต้นยิ่งมาก ฝากเพิ่ม ยิ่งจะทำอัตราดอกเบี้ยทบต้นทำงานได้ดีที่สุดเมื่อกำไรจากดอกเบี้ยถูกลงทุนใหม่ ทุกครั้งที่คุณลงทุนใหม่จากการทำกำไร คุณเพิ่มจำนวนเงินที่ได้รับดอกเบี้ย ตามเวลา นี้สามารถนำไปสู่การเติบโตของการลงทุนหรือเงินออมของคุณอย่างรวดเร็ว เช่น นอกจากเงินต้น 10,000 บาท เราก็เพิ่มการออมในแต่ละเดือนหรือแต่ปี 1000 บาท ยิ่งทำให้การทวีคูณสูงขึ้นไปด้วย
- ไม่ถอนเงินออม: หลักการของดอกเบี้ยทบต้นทำงานได้เฉพาะเมื่อคุณปล่อยให้เงินของคุณเติบโต อย่าถอนเงินออมของคุณ เพราะจะทำให้ลดผลของการทบต้นอย่างมาก
ถ้าเข้าใจและใช้กลยุทธ์เหล่านี้ คุณสามารถใช้ประโยชน์จากดอกเบี้ยทบต้นได้เต็มที่และเพิ่มการเติบโตทางการเงินอย่างมากตามเวลา ความสำคัญคือการเริ่มต้นเร็ว ลงทุนอย่างมีวิจารณญาณและปล่อยให้เงินของคุณเติบโตเอง
มหัศจรรย์เลข 72 กฎแห่งอัตราดอกเบี้ยทบต้น
กฎที่ว่าต้องการผลตอบแทนเป็น 2 เท่าต้องใช้เวลากี่ปี โดยใช้เลข 72 เป็นตัวตั้งแล้วใช้สูตร
“72/อัตราผลตอบแทนที่ต้องการ” หรือ “72/ระยะเวลาที่ต้องการออม”
ตัวอย่างเช่น มีเงินต้น 10,000 บาท ลงทุนได้ผลตอบแทน 10% ต่อปี (72/10) เพียง 7.2 ปี เงิน 10,000 บาทของคุณ ก็จะพอกพูนขึ้นเป็น 200,00 บาท
นอกจากนี้ กฎแห่งเลข 72 ยังสามารถประยุกต์ใช้กับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก็ได้ ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่าการกู้ยืมเงินหรือการใช้บัตรเครดิตนั้นร้ายแรงเพียงใด เช่น กู้ยืมเงินมา 50,000 บาท เสียดอกเบี้ยเงินกู้ 20% ต่อปี (72/20) เพียง 3.6 ปี หนี้ 50,000 บาท ก็จะพอกพูนขึ้นเป็น 100,000 บาท
ใส่ความเห็น