ดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 2,000 จุด สูงสุดรอบ 87 ปี

903

ดาวโจนส์ในคืนวันอังคาร (24 มี.ค.) ทำสถิติปิดบวกวันเดียวมากที่สุดในรอบ 87 ปีหรือนับตั้งแต่ปี 1933 จาก ด้วยความหวังว่าสภาจะผ่านแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ล้านล้านเหรียญ เร็วๆ นี้ ปัจจัยดังกล่าวดันน้ำมันขยับขึ้น ขณะที่ทองคำทะยาน 93 ดอลลาร์ ส่วนตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะทะลุ 400,000 รายแล้ว

ดาวโจนส์ปิดพุ่งกว่า 2000 จุด สูงสุดรอบ 87 ปี

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 2112.98 จุด (11.37 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 20,704.91 จุด
เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 209.93 จุด (9.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,447.33 จุด
แนสแดค เพิ่มขึ้น 557.18 จุด (8.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,417.86 จุด

หุ้นทั่วโลกนั้นมีความหวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัตติศาสตร์ของสหรัฐ (ครั้งปี 2008 ประมาณ 8 แสนล้านเหรียญ) สมาชิกระดับอาวุโสของเดโมแครต และรีพับลิกัน ในวันอังคาร เปิดเผยว่า พวกเขาใกล้บรรลุข้อตกลงในร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมีเป้าหมายมอบความช่วยเหลือทางการเงินแก่ชาวอเมิกาที่ต้องตกงานและช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ รวมถึงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยไม่จำกัดวงเงินและเวลา เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 65 เซ็นต์ ปิดที่ 24.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 12 เซ็นต์ต่อบาร์เรล ปิดที่ 27.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (24 มี.ค.) พุ่งแรง ปิดบวกวันเดียวคิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเหตุให้ต้องปิดเหมืองทองคำ และได้แรงหนุนจากความเคลื่อนไหวรับมือผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตโรคระบาดใหญ่ของเฟด โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์เพิ่มขึ้น 93.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,660.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

——สภาสหรัฐอนุมัติเงินกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว เงิน 2 ล้านล้านเหรียญ กำลังจะโปรยออกมาช่วยประชาชนและบริษัทต่างๆในสหรัฐให้พ้นวิกฤตไวรัสโควิดนี้ !———

สิ้นสุดการลุ้นและการรอคอยครับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัตติศาสตร์ของสหรัฐซึ่งใหญ่กว่าครั้ง Subprime Crisi ถึง 3 เท่า (ครั้งวิกฤตปี 2008 ประมาณ 8 แสนล้านเหรียญ) ได้รับการอนุมัติแล้ว