
ราคาน้ำมันร่วงแรงและดาวโจนส์ดิ่ง 2,000 จุด ในวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศมาตรการจำกัดเข้มงวดต่างชาติที่เดินทางจากยุโรปเข้าสหรัฐฯ ในความพยายามสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่ทองคำก็ปิดลบอย่างหนักเช่นกัน
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 2,352.60 จุด (9.99 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 21,200.62 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 260.74 จุด (9.51 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,480.64 จุด แนสแดค ลดลง 750.25 จุด (9.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,201.80 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.48 ดอลลาร์ หรือ 4.5% ปิดที่ 31.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอนงวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 2.57 ดอลลาร์ หรือ 7.20% ปิดที่ 33.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาทองคำดิ่งแรงในวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) ถูกฉุดจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังเฟดแถลงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณทางการเงินรูปแบบหนึ่ง และมีแผนเพิ่มขนาดงบดุล ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 52 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,590.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB)จวกทรัมป์เละ บอกว่าการปิดน่านฟ้ายุโรป-สหรัฐ นั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลย ! มีแต่จะทำให้แย่ลงและเป็นเหตุให้หุ้นตกหนักทั่วโลกคืนนี้ ส่วน ECB ตัดสินใจไม่ลดอัตราดอกเบี้ยแต่จะทำ QE เพิ่มแทน
ตลาดหุ้นทั่วโลกโดนเทขายหนักสุดในคืนนี้ ทำให้หลายๆตลาดทั่วโลกโดนติด CircuitBreaker กันถ้วนหน้า ที่อเมริกาโดนรอบที่ 2 ในอาทิตย์เดียว โดยเหตุผลหลักๆเป็นเพราะทรัมป์ประกาศแบนเที่ยวบินจากสหรัฐ-ยุโรปทั้งหมดเป็นเวลา 30 วัน ทำให้การท่องเที่ยวจะหายไป การใช้จ่ายในประเทศและการใช้น้ำมันเครื่องบินก็จะน้อยลงไปอีก ประชาชนสองฝั่งติดเกาะไม่สามารถกลับบ้านได้ ไม่ได้เกิดอะไรดีขึ้นต่อเศรษฐกิจเลย
คริสตีน ลาการ์ด (Christine Lagarde) ประธานธนาคารกลางยุโรปได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่เข้าใจเลยว่าทรัมป์จะประกาศการแบนการเดินทางทำไมเพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย และที่สำคัญก็ไม่ได้มีการหารือกับทางสหภาพยุโรปก่อนเลยด้วยซ้ำ
“โดยปกติฉันจะไม่ตั้งคำถามการบริหารงานของรัฐบาลใดๆ แต่ครั้งนี้ฉันสงสัยอย่างมากว่าไวรัส Covid-19 นั้นมีหนังสือเดินทางและรู้หรอว่าไม่ควรจะข้ามจากเขตแดนยุโรปไปสหรัฐ ? ” ลาการ์ดกล่าวผ่านการให้สัมภาษณ์กับ CNBC
“การปิดพรมแดนระหว่างสองทวีปนั้นจะไม่ช่วยเรื่องไวรัสระบาดเลย ถ้าจะทำอะไรที่เป็นห่วงประชนชนจริงๆก็ควรจะใช้วิธีการที่ได้ผลดี ทำเช่นนี้มีแต่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงและทำให้ผู้ประกอบการต่างๆเสียหาย” ลาการ์ดเสริม
ส่วนทาง ECB ตลาดคาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 0.1% แน่ๆแล้วหลังธนาคารกลางทั่วโลกออกมาลดดอกเบี้ยกระตุ้นเศรษฐกิจกันหมดแล้ว แต่ทางธนาคารกลางยุโรปกลับไม่ได้มีคำตอบอะไรนอกจากบอกว่าเลือกที่จะออกเงินกู้ให้มากขึ้นแทน โดยประกาศขยายมาตรการ QE มูลค่า 1.3528 แสนล้านเหรียญ
คืนวันที่ 12 มีนาคม 2563 ตลาดหุ้นในยุโรปกู่ไม่กลับ ร่วงไปเฉลี่ย 7-16% ดูแล้วแต่ละประเทศรับมือกับโควิด ไม่ได้จริงๆครับ ประเทศที่หนักที่สุด คือ อิตาลีครับ เมื่อวานนี้ร่วงไป 16%
หลังจากที่จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อในอิตราลีพุ่ง 15,113 ราย เพิ่มขึ้น 2,651 ราย และเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 1,016 ราย