automation worker concept with 3d rendering ai robot working smart office

อาชีพที่จะหายไปจาก การมาของ AI


อาชีพหรือการงานที่มนุษย์ทำ ซึ่งเนื่องจากความเปลี่ยนแปลงในทางเทคโนโลยี, อัตโนมัติ, หรือ AI ทำให้ความต้องการในอาชีพเหล่านั้นลดลงหรือหายไปเลย อาจจะเกี่ยวกับการผลิต, การบริการ, หรืออาชีพอื่น ๆ ที่มนุษย์เคยทำ

ยกตัวอย่างเช่น, ในยุคก่อน ๆ มีอาชีพเช่น ผู้สร้างกระดิ่ง, คนทำเครื่องเขียนด้วยมือ, หรือผู้บริการส่งข่าวสารด้วยม้า ซึ่งในปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีและวิธีการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทนที่

ในยุคปัจจุบัน, เราเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในอุตสาหกรรมการผลิต ซึ่งมีการใช้งานเทคโนโลยีและอัตโนมัติในการผลิตสินค้า ทำให้อาชีพบางอย่างที่เคยต้องการแรงงานมนุษย์มากมายในอดีต มีความต้องการลดลง อาจจะเป็นอาชีพในการผลิต, การขนส่ง, หรือหน้าที่บริการลูกค้า

อาชีพที่จะหายไปจาก ผลกระทบของ AI

ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทำให้งานหลายประเภทหายไป ผู้คนที่ปรับตัวไม่ได้ก็ตกงาน บางคนตกงานชั่วข้ามคืน

อย่างไรก็ตามอีกด้านหนึ่ง, เรายังเห็นเทคโนโลยีทำให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ ด้วย. ดังนั้น, แม้ว่า “อาชีพมนุษย์ที่จะหายไป” จะหมายถึงการลดลงของอาชีพบางอย่าง, แต่ยังมีโอกาสสำหรับการสร้างอาชีพใหม่ ๆ ที่ต้องการความสามารถและทักษะใหม่ ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง.

เช่น เอ็นจิเนียร์ข้อมูล (Data Engineer), นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analyst), หรือผู้เชี่ยวชาญในการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning Specialist) เป็นต้น อาชีพเหล่านี้ส่วนใหญ่ต้องการความสามารถเฉพาะทางและความรู้ทางเทคโนโลยีที่สูง ซึ่งเรียกว่า “อาชีพสมัยใหม่” หรือ “อาชีพของอนาคต”.

เนื่องจากเหตุผลนี้, การศึกษาและการฝึกอบรมที่มุ่งเน้นไปที่ทักษะที่จำเป็นสำหรับอาชีพในอนาคตมีความสำคัญมาก. สถาบันการศึกษาและองค์กรต่าง ๆ จึงต้องปรับปรุงหลักสูตรเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต. นอกจากนี้, ผู้ที่ทำงานในอาชีพที่มีความเสี่ยงที่จะหายไปในอนาคต ควรพิจารณาการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น.

ทั้งนี้, แม้ว่าเราจะพยายามทำนายอาชีพมนุษย์ที่จะหายไป แต่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าอนาคตที่จะมานี้เป็นอย่างไร เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคม, ทางเศรษฐกิจ, การพัฒนาทางเทคโนโลยี, และการตัดสินใจทางการเมือง.

ในปี 2013 แม้จะเป็นงานวิจัย 10 ปีที่แล้วก็ตาม ศึกษาการวิจัยโดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด Carl Frey และ Michael Osborne ประเมินว่า 47% ของงานในสหรัฐฯ มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกอัตโนมัติภายในปี 2033. การศึกษานี้ที่สร้างจากการวิเคราะห์ 702 อาชีพ, พบว่างานที่เป็นกิจวัตร, ซ้ำ ๆ, และทำตามคำสั่งเสี่ยงที่สุด

อย่างไรก็ตามปลาย ค.ศ.2022 มีการเปิดตัวแชตบอตอัจฉริยะของบริษัทโอเพ่นเอไอ ที่เรียกว่าแชตจีพีที (ChatGPT) งานหลายอย่างในปัจจุบันถูกเอไออย่างแชตจีพีทีเข้ามาทำแทน แม้ว่าขณะนี้ยังไม่สามารถทดแทนได้อย่างสมบูรณ์ แต่หลายคนเชื่อว่า การเปิดตัวของ ChatGPT เป็นการเร่งงานวิจัยที่น่าจะเร็วกว่าปี 2033 ที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเคยศึกษาไว้ ระบบแชตอัจฉริยะจะเข้ามาทำหน้าที่แทนได้อย่างสมบูรณ์อย่างแน่นอน

การสูญเสียงานจากการอัตโนมัติอาจมีผลกระทบกับเศรษฐกิจและสังคม ถ้าคนหลายล้านคนสูญเสียงาน อาจทำให้ความจน, ความไม่เท่าเทียม, และความไม่สงบเพิ่มขึ้น

ยุคทองของนักเขียนรหัสโปรแกรมหรือโปรแกรมเมอร์ วิศวกรซอฟต์แวร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล นักพัฒนาเว็บไซต์ ฯลฯ แต่ตอนนี้เริ่มมีแชตบอทอัจฉริยะมาทดแทนเป็นบางส่วนแล้ว แม้แต่งานเขียนคอนเทนต์ นักเขียนคอลัมน์ นักเขียนโฆษณา ที่ในอดีตเราเชื่อว่าไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถทำงานแทนได้ ขณะนี้เราเริ่มใช้แชตบอทของ GPT ในการสร้างเนื้อหาที่สามารถอ่านได้แบบจริงจัง หลายๆ สำนักพิมพ์เริ่มใช้ AI เพื่อเขียนคอลัมน์แล้ว

งานที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบความจริงของคดี การรวบรวมเอกสารและการค้นหาหลักฐานที่สนับสนุนในการดำเนินคดีซึ่งในอดีตเป็นหน้าที่ของทนายความผู้ช่วยหรือนักศึกษาฝึกงาน ขณะนี้สามารถใช้ AI ทำงานแทนได้แบบอย่างสมบูรณ์

มนุษย์ไม่สามารถจำข้อมูลในปริมาณมากๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่มีหน้าเป็นหมื่นหน้า หรือข้อมูลที่มีในอินเทอร์เน็ต ความสามารถของมนุษย์ก็ไม่สามารถเชื่อมต่อและประมวลผลข้อมูลทั้งหมดนั้นได้

อาชีพที่จะหายไปจาก ผลกระทบของ AI

10 อาชีพที่ได้ผลกระทบของ AI

การปรากฏของ AI ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในมากมายในภาคอาชีพทั้งหมด สำหรับ 10 อาชีพที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการถาม ChatGPT4 คือ

  1. นักเขียนรหัสโปรแกรม (Programmers): มีการเขียนโค้ดอัตโนมัติที่สามารถเขียนโค้ดเบื้องต้นที่ทำงานได้โดยไม่ต้องมีการสนับสนุนของนักเขียนโค้ดมนุษย์
  2. นักวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analysts): AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลในปริมาณที่ใหญ่ได้รวดเร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์
  3. นักเขียน (Writers): แชตบอทของ GPT สามารถเขียนเนื้อหาที่สามารถอ่านได้แบบจริงจัง
  4. ทนายความผู้ช่วย (Paralegals): AI สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบความจริงของคดี การรวบรวมเอกสารและการค้นหาหลักฐานที่สนับสนุน
  5. ครูและอาจารย์ (Teachers and Professors): มีการทดลองใช้ GPT ในการสอนแล้ว นอกจาก AI ยังมีการสอนออนไลน์มากระทบก่อนหน้านี้ นักเรียนสามารถเรียนมหาวิทยาลัยชั้นนำได้จากทั่วโลก ทำให้มหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนในท้องถิ่นที่ปรับตัวไม่ได้เสี่ยงต่อการปิดตัวและตกงาน
  6. นักวิเคราะห์การเงินหรือนักวิเคราะห์การลงทุน (Financial Analysts): GPT สามารถทำการวิเคราะห์ทางการเงินได้ครบถ้วนและชัดเจนมากกว่านักวิเคราะห์การเงินมนุษย์
  7. นักซื้อขายสินทรัพย์ (Traders): GPT สามารถทำการซื้อขายสินทรัพย์ในตลาดการเงินเพื่อทำกำไรสั้น ๆ ได้ดีกว่านักเทรดหุ้นมนุษย์
  8. แพทย์ (Doctors): AI มีความสามารถในการวินิจฉัยโรคและแนะนำการรักษาด้วยความแม่นยำที่สูง
  9. นักขับรถส่งสินค้า (Delivery Drivers): การส่งสินค้าโดยใช้รถอัตโนมัติเริ่มจะถูกประยุกต์ใช้ในหลายภูมิภาค
  10. นักโทรคมนาคม (Telemarketers): AI สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง และไม่เคยรู้สึกเบื่อหรือเหนื่อย การโทรขายสินค้าด้วย AI สามารถทำได้มากกว่าคน.

ทั้งนี้ AI ยังไม่สามารถทดแทนมนุษย์ได้ทั้งหมด ยังมีส่วนที่ต้องการความรู้สึก ความคิดสร้างสรรค์และความเข้าใจในบริบทที่ซับซ้อนอยู่แล้วมนุษย์ยังคงเป็นที่ต้องการในหลายภาคอาชีพ.

การเตรียมตัวสำหรับผลกระทบของ AI

สามารถทำได้ดังนี้:

  • ลงทุนในการศึกษาและฝึกอบรม เพื่อให้แรงงานมีทักษะที่จำเป็นสำหรับงานในอนาคต
  • พัฒนานโยบายและโปรแกรมใหม่เพื่อช่วยผู้ที่สูญเสียงานหางานใหม่
  • สร้างระบบสวัสดิการสังคมเพื่อช่วยคนที่กำลังลำบากทางการเงินเนื่องจากการสูญเสียงาน ด้วยการดำเนินการเหล่านี้, เราสามารถช่วยลดผลกระทบที่เป็นลบของการอัตโนมัติและรับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มันสามารถนำมาซึ่ง.

Posted

in

by

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *