สำนักข่าว CNBC รายงานว่า Netflix ผู้ให้บริการ VDO Streaming บริษัทให้บริการสตรีมมิงที่นำเสนอความบันเทิงออนไลน์ทั้งรายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ สารคดี รายใหญ่ของโลกได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 4/63 มีรายได้อยู่ที่ 6.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/63 ที่ทำได้ 6.44 พันล้านดอลลาร์ รายได้ของบริษัทในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2020 ว่าเพิ่มขึ้นจนเกือบจะเข้าใกล้สถานะที่ Netflix จะมีกระแสเงินสดอิสระ หรือ Free Cash Flow แล้ว และทำให้บริษัทพิจารณาที่จะซื้อหุ้นคืน ขณะที่ในปีนี้ก็คาดหวังว่ารายได้ของบริษัทจะมาถึงจุดคุ้มทุน Netflix ในครั้งนี้ส่งผลให้หุ้นของบริษัทในตลาดพุ่งทะยานถึง 12.4%%
Netflix สมาชิกพุ่งทะลุ 200 ล้านคน
”สเปนเซอร์ นอยแมน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน(CFO) ของ Netflix กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4 มาจากยอดสมาชิกของ Netflix ได้เพิ่มขึ้นทะลุ 200 ล้านราย เป็นครั้งแรก ซึ่งทางบริษัทได้คาดหวังว่าจะมีกระแสเงินสดถึงจุดคุ้มทุนในปีนี้ และบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มการชำระหนี้ในปีนี้เช่นเดียวกัน หลัง Netflix มีภาระหนี้สูงถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
ข้อมูลจาก StreetAccount พบว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้คนต้องอยู่แต่ในบ้านพักหรือเจอกับมาตรการล็อกดาวน์ ส่งผลดีต่อ Netflix ทำให้จำนวนผู้สมัครสมาชิกของ Netflix ในปีที่ผ่านมาเพิ่มสูงขึ้น ยอดผู้สมัครใช้บริการของ Netflix ทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 8.5 ล้านคน มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์กันไว้ว่าจะอยู่ที่ 6.47 ล้านคน ขณะที่รายได้รวมของบริษัทยังเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6,640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ราว 6,626 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กระนั้นรายได้ต่อหุ้น (EPS) กลับน้อยกว่าที่คาดหวังไว้คือ จาก 1.39 ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 1.19 ดอลลาร์สหรัฐ ทางบริษัทตั้งใจที่จะนำเงินส่วนนี้ไปชำระหนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ปี 2011 ขณะที่ในขณะนี้บริษัทมีเงินสดอยู่ในมือราว 8,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม CFO ของ Netflix ยอมรับว่า การแข่งขันในธุรกิจ VDO Streaming ได้เพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสที่ผ่านมาหลัง Disney + ได้เปิดตัวเป็นคู่แข่ง นอกจากนี้ Netflix ยังต้องแข่งขันกับคู่แข่งสำคัญรายอื่นๆอย่าง Apple TV +, Discovery + รวมถึง HBO Max ที่ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญในปีนี้เช่นเดียวกัน การแข่งขันด้านคอนเทนต์ระหว่างเจ้าของแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงสูงขึ้นมากโดยเฉพาะ Disney+ ที่เปิดตัวได้เพียงปีเดียว แต่สามารถโกยสมาชิกทั่วโลกไปได้แล้วกว่า 87 ล้านบัญชี
ทั้งนี้ CFO ของ Netflix กล่าวว่า บริษัทมีแผนปรับปรุงแพลตฟอร์ม เพื่อเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดย Netflix ได้คาดการณ์ว่าจะมียอดผู้สมัครสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นทั่วโลกมากถึง 6 ล้านคนในไตรมาสแรกของปี 64
Netflix ได้เริ่มต้นเปิดให้บริการเมื่อ 14 ปีก่อน โดยเริ่มจากจำนวนสมาชิกเพียง 6 ล้านคน ก่อนที่บริการสตรีมมิงจะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในช่วง 7 ปีให้หลัง ทำให้บริษัทได้เริ่มต้นผลิตรายการของตัวเอง และขณะนี้ได้ขยายการให้บริการออกไปมากถึง 190 ประเทศทั่วโลก