สำนักข่าว Nikkei ได้รายงานว่า ห้างสรรพสินค้าโตคิว เตรียมปิดให้บริการในช่วงสิ้นเดือนมกราคมปีหน้า จะทำให้ห้างสรรพสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นทยอยถอนตัวจากประเทศไทย เหลือเพียงแค่สยามทาคาชิมาย่าเท่านั้น
สำนักข่าวญี่ปุ่น รายงาน ห้างสรรพสินค้าโตคิว (Tokyu) ของญี่ปุ่น ตัดสินใจปิดสาขาในกรุงเทพฯ หลังซบเซามานานซ้ำเจอผลกระทบนักท่องเที่ยวหดหายจากโควิด-19 ห้างสรรพสินค้าโตคิว (Tokyu) เป็นส่วนหนึ่งของห้างสรรพสินค้ามาบุญครองตั้งอยู่บริเวณแยกปทุมวัน โดยเข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2528 ซึ่งตลอดที่ผ่านมา สามารถผ่านพ้นทั้งวิกฤตต้มยำกุ้ง และสถานการณ์การเมืองมาได้ แต่สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวลดลงจนเกือบหายไปทั้งหมด ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายทำให้ตัดสินใจปิดตัวลง หลังจากที่ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน (Isetan)ยุติการดำเนินธุรกิจเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ที่ผ่าน ทำให้ยังคงเหลือห้างสัญชาติญี่ปุ่นเพียงแห่งเดียวคือ สยาม ทาคาชิมายะ (Takashimaya) ซึ่งตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม
ก่อนหน้านี้ ห้างสรรพสินค้าโตคิว เคยเปิดให้บริการสาขาที่ 2 ที่พาราไดซ์ พาร์ค ถนนศรีนครินทร์ ด้วยเงินลงทุน 3,200 ล้านบาท ของบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด(มหาชน) แต่ก็ต้องปิดตัวลงเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2562 หลังเปิดให้บริการมาได้เพียง 3 ปี (19 มิถุนายน พ.ศ.2558) และเผชิญกับปัญหาขาดทุนมาโดยตลอด
ด้านผลประกอบการของห้างสรรพสินค้าโตคิว มาบุญครองเซ็นเตอร์
ปี 2560 ขาดทุนสุทธิ 288,437,791 บาท
ปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 90,034,335 บาท
ปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 193,564,674 บาท
ในขณะที่บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้บริหารเอ็มบีเค ได้เปิดเผยรายงานที่ประชุมของบริษัทดังกล่าวว่า ห้างสรรพสินค้าโตคิว มาบุญครองเซ็นเตอร์ ได้เช่าพื้นที่ทั้ง 4 ชั้น ในปัจจุบัน โดยทำการต่อสัญญาเช่าพื้นที่ไปเป็นเวลา 9 ปี อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของห้างสรรพสินค้าโตคิว ยังไม่ได้ความคิดเห็น หรือคำตอบในความชัดเจนดังกล่าวสำหรับธุรกิจห้างสรรพสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นในประเทศไทย ต้องเผชิญกับปัจจัยลบรวมถึงความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง ห้างสรรพสินค้าโตคิวเปิดดำเนินกิจการในประเทศไทย ใช้ชื่อว่า บริษัท กรุงเทพ-โตคิว สรรพสินค้า จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2541 ทุนจดทะเบียน 12 ล้านบาท โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 1985 หรือปี 2528 หรือเปิดกิจการมานานถึง 35 ปี
