ประวัติ Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้ง หัวเว่ย

คุณเหริน เจิ้งเฟย (任正非) Ren Zhengfeiเป็นนักการเมืองวิศวกรและนักธุรกิจชาวจีน เขาเป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ของเซินเจิ้นหัวเว่ย (华为)  ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นผู้ผลิตอันดับที่สองของสมาร์ทโฟน แทนที่ Apple ไปได้สำเร็จ (นับเฉพาะยอดจำนวนเครื่อง) Huawei ปัจจุบันมีพนักงานราวๆ 170,000 คน มีสาขาตั้งอยู่ทั่วโลก โดยเป็นพนักงานชาวจีนประมาณ 60,000 คน ปัจจุบัน Ren Zhengfei  ถือหุ้นหัวเว่ยเพียงแค่ราวๆ 1.5% เท่านั้น

ประวัติ Ren Zhengfei

Ren Zhengfei ผู้ก่อตั้ง Huawei เกิดในปี 1944 ที่มณฑลกุยโจว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน หนึ่งในภูมิภาคที่ยากจนที่สุดของประเทศ Ren Zhengfei เติบโตมาจากครอบครัวที่ค่อนข้างยากจนด้วยซ้ำไป ต้องอดมื้อกินมื้อ
และที่ลำบากไปกว่านั้น เขาเติบโตมาในช่วงที่จีนกำลังสั่นคลอน เพราะอยู่ในช่วงของ “ปฎิวัติวัฒนธรรม” ที่เกิดสงครามภายในประเทศ ที่เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และมีคนล้มตายเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงพ่อของ Ren Zhengfei ก็ถูกกลั่นแกล้งและทารุณสารพัด โดนจับขังคุกก็เคยมาแล้ว
หลังจากใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก Ren Zhengfei ก็ได้เข้าเรียนวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฉงชิ่ง และหลังจากเรียนจบได้เข้าทำงานที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีทางทหารให้กับกองทัพปลดปล่อยประชาชน

จุดเริ่มต้น Huawei

Ren Zhengfei ลาออกจากกองทัพในช่วงปี 1980 ตามแผนการลดกำลังพลของกองทัพ
เมื่อตอนที่เขาอายุ 43 ปี เขาย้ายไปเสินเจิ้นเพื่อก่อตั้งบริษัทของตัวเองในปี 1987 ด้วยเงินที่เขาเก็บหอมรอมริบประมาณ 21,000 หยวน(5,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ) บริษัทนั้นก็คือ Huawei ซึ่งมีความหมายในภาษาจีนว่า “ดีเยี่ยม” / “เยี่ยมยอด”
ในช่วงแรกของการดำเนินงาน แหล่งรายได้ของ Huawei มาจากการขายอุปกรณ์โทรคมนาคมสำนักงานที่นำเข้ามาจากฮ่องกง จากการอยู่ในตลาดเกี่ยวกับองค์กรใหญ่ภายในประเทศมีความต้องการเกี่ยวกับระบบการสื่อสารโทรศัพท์ภายในเป็นจำนวนมาก เช่น โรงพยาบาล, สถานีตำรวจ ฯลฯ
Ren Zhengfei เป็นตัวแทนจำหน่ายระบบตู้สาขาโทรศัพท์หรือที่เรียกว่า PBX (  ตู้ PBX เป็นระบบชุมสายโทรศัพท์ย่อย ทำให้ภายในบริษัทหรือหน่วยงานนั้นมีเบอร์โทรศัพท์ (เบอร์ต่อ หรือ เบอร์ภายใน หรือ เบอร์ extension) เป็นของตนเองใช้สำหรับโทรติดต่อสื่อสารกันเอง) เขาก็ได้เข้าไปเจรจากับบริษัทหงเหยียนที่ฮ่องกง ซึ่งมีคุณภาพดีกว่าและราคาถูกกว่าเจ้าอื่น ๆ ในตลาด  เพียงปีแรกปีเดียว พวกเขาก็สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 1 ล้านหยวน เนื่องจากต้นทุนสิ้นค้านั้นต่ำกว่าในท้องตลาดแถมสินค้ายังมีคุณภาพดีกว่า และให้ความสำคัญกับบริการหลังขายเป็นอย่างมาก
ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัท Huawei ในปี 1987 จนถึงปี 2013 รวมระยะเวลากว่า 26 ปีแรกนั้น Ren Zhengfei ไม่เคยออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อใด ๆ เลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ Production, Sales และ Profit หรือแม้กระทั่งประวัติความเป็นมาของตัวเขา ประวัติความเป็นมาของบริษัท โดยเขายึดหลักที่ว่า “พูดน้อยแต่ทำเยอะ” เพราะเขาต้องการที่จะมุ่งมั่นในการทำงานอย่างหนัก มากกว่าที่จะคอยมากังวลว่า เวลาจะออกสื่อจะต้องเตรียมตัวพูดยังไงมากกว่า จนกระทั่งเมื่อทุก ๆ อย่างในบริษัทมันเริ่มลงตัว

ในปี 1988 ถึง 1999 พวกเขาเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่อง PBX จากบริษัทในฮ่องกง

ในปี 1990 ถึง 2008 พวกเขาเริ่มผลิตสินค้าและมีโรงงานเป็นของตนเอง  หลังจากนั้น 2 ปี บริษัทได้เปิดตัวสวิตช์ดิจิทัล ซึ่งเป็นอุปกรณ์แกนกลางที่สำคัญมากของเครือข่ายโทรคมนาคมในการทำหน้าที่ส่งและรับสัญญาณจากผู้ใช้โทรศัพท์ ความสามารถของตัวสวิตช์ที่ Huawei พัฒนาขึ้นมายังไม่ดีพอ แต่เนื่องจากราคาที่ถูกทำให้มันบวกลบหักกลบช่องว่างนั้นได้ สุดท้าย Ren Zhengfei สามารถตัดหน้าบริษัทต่างชาติจากราคาที่ถูกกว่า

ในปี 1997 Huawei ได้เริ่มคลืบคลานก้าวข้ามชายแดนของประเทศจีนไปสู่ฮ่องกง ในการร่วมมือกับเครื่องขายโทรศัพท์ Hutchison Telecom ภายในระยะเวลา 8 ปี Huawei ได้ขายฐานลูกค้าไปทั่วทั้งทวีปเอเชีย และเริ่มต่อไปที่ แอฟริกา ละตินอเมริกา และในที่สุด ยุโรป  Huawei พัฒนาอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้เหมาะสมกับธุรกิจที่มีขนาดที่เล็กกว่า ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของตลาดในขณะนั้น

ในปี 2008 ถึง 2013 พวกเขาเพิ่มนโยบายการลงทุนในแผนก R&D หรือการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยจะกันเงินจากยอดขายเป็นจำนวน 10% ในทุก ๆ ปี เพื่อลงทุนในเรื่องนี้โดยเฉพาะ
Huawei มุ่งหน้าสร้างนวัตกรรมที่ไปตอบสนองความต้องการของลูกค้าระดับรองลงมา เริ่มจากลูกค้าในประเทศและขยายไปสู่ตลาดที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่ในต่างประเทศ ทำให้ไม่ต้องไปต่อกรโดยตรงกับผู้เล่นรายใหญ่จากยุโรปและอเมริกา ทำให้พื้นที่ของผู้เล่นรายใหญ่ลดลง ทำให้ภายในปี 2012 คู่แข่งด้านเครือข่ายโทรคมนาคมรายเดียวที่ยังเหลืออยู่คือ Ericsson และผู้ผลิตเราท์เตอร์และสวิชต์คือ Cisco
ปี 2009 โทรศัพท์มือถือแบรนด์หัวเว่ยที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ก็ถือกำเนิดขึ้น โดยเป็นความร่วมมือกับ T-Mobile
ปี 2011 เมื่อสมาร์ทโฟนรุ่น C8500 ขายเกลี้ยงในประเทศจีน หลังจากวางจำหน่ายไป 100 วัน
ปี 2018 ก็เข้าสู่การพัฒนาระบบมือถือ 5G
Hauwei นั้น ได้กลายเป็นบริษัทเจ้าแรกที่สามารถสร้างชิฟเซ็ตระบบ 5G ได้ก่อนใคร ในชื่อของ Balong 5G01 
จุดเปลี่ยนสำคัญของ Hauwei อยู่ที่การจับมือเป็นพันธมิตรกับ Leica แบรนด์กล้องระดับโลกจากเยอรมนี “ไลก้า” เข้ามาช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือของหัวเว่ยอย่างก้าวกระโดด

นโยบายของบริษัท Huawei คือการให้มีผู้บริหารระดับอาวุโส 3 คน คอยหมุนเวียนเปลี่ยนกันทำหน้าที่ทุกๆ 6 เดือน
Huawei ทุ่มเทให้กับการวิจัยและพัฒนาสิ่งใหม่ๆ โดยตั้งศูนย์วิจัยขนาดใหญ่และเล็กทั่วโลก รวมเกือบ 50 ศูนย์ เพื่อสร้างเทคโนโลยี และนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้ได้ก่อนแบรนด์อื่น